
มาร์ค วาห์ลเบิร์ก กับคาแรคเตอร์พระเอกแอ็คชั่นถือปืนกลน่าจะเป็นภาพที่แทบเป็นเอกลัษณ์ประจำตัวเขาไปแล้ว ปีเตอร์ เบิร์กจึงพยายามหาทางให้มาร์ค ได้ฉีกภาพลักษณ์จากเดิมด้วยการเพิ่มเติมบุคลิกประหลาด ๆ เข้าไปในตัวเจมส์ ซิลวา แล้วผลที่ออกมาคือตัวละครที่ออกแนวโรคจิต เจ้าอารมณ์ ฉุนเฉียวตลอดเวลา สมาธิสั้นต้องคล้องหนังยางที่ข้อมือไว้คอยดีดดึ๋งเพื่อช่วยควบคุมสมาธิ และเจมส์ เป็นมนุษย์ที่พูดมาก หลาย ๆ ฉากที่เขาปรากฏตัวบนจอ ซับไตเติ้ลจะวิ่งแบบรัว ๆ อ่านกันแทบไม่ทัน ซึ่งจริง ๆ ก็ปล่อยผ่านไปได้ เพราะเต็มไปด้วยปรัชญาคำคมที่ไม่มีส่วนสำคัญอะไรกับเนื้อหาหนังนัก ถ้ายังปวดหัวไม่พอ ปีเตอร์ เบิร์ก พยายามสร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังที่มีมาร์ค วาห์ลเบิร์กเป็นพระเอกเรื่องที่ 4 ของเขาด้วยการใส่ลูกเล่นการตัดต่อสลับไปมา 2 เหตุการณ์แบบรัว ๆ ปวดหัวมาก และไม่เห็นว่ามันจะเท่ตรงไหน
หนังเปิดเรื่องแบบหนังแอ็คชั่นพิมพ์นิยม คือโชว์ปฏิบัติการของทีมพระเอกเป็นการแนะนำตัวและแสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจน่าทึ่ง ก็เป็นการให้เราได้รู้จักสมาชิกภาคพื้นดินของทีม ที่ประสานงานกับทีมโอเวอร์วอตช์กองบัญชาการที่มีบิช็อปเป็นผู้บัญชาการ คอยทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาจากภายนอกให้ ด้วยความสามารถของทีมโอเวอร์วอตช์ก็นับว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งของหนัง แต่เป็นสีสันที่มากับความโม้มาก เพราะทีมนี้สามารถย้ายหน่วยบัญชาการไปที่ไหนก็ได้ แล้วคอมพิวเตอร์ของพวกเขาก็สามารถเข้าควบคุมระบบไฟฟ้าได้ทุกอาคาร มองเห็นภาพกล้องวงจรปิดได้ทุกตัว และถึงขั้นควบคุมสัญญาณจราจรในประเทศนั้น ๆ ได้ด้วย เหมือนยกระบบสอดแนมอัจฉริยะมาจากหนัง Eagle Eyes (2008) อ่านต่อ